พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงมีพระราชหฤทัยใฝ่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีพระราชดำริวินิจฉัยตั้งแต่ต้นรัชกาลแล้วว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับปรุงการปกครองให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในสมัยนั้น ดังข้อความที่กล่าวว่า “...กระแสความเห็นในประเทศนี้ส่งสัญญาณชัดแจ้งว่า กาลเวลาของระบอบอัตตาธิปไตยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว หากจะให้พระราชวงศ์นี้สถิตอยู่ต่อไป จะต้องปรับให้สถานะของพระมหากษัตริย์มีความมั่นคงขึ้น จะต้องหาหลักประกันอย่าให้มีพระมหากษัตริย์พร่องในความ สุขุมรอบคอบ ในการทรงใช้พระวิจารณญาณ...” จึงได้ทรงดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปสู่การปกครองท้องถิ่นแบบเทศบาลโดยผู้แทนของประชาชน และการมีรัฐสภาในระดับประเทศมุ่งสู่การเปิดโอกาสให้ประชาชนเรียนรู้การปกครองด้วยตนเองในระบอบประชาธิปไตย และโปรดเกล้าฯ ให้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเพื่อพิจารณา หากแต่คณะราษฎรได้เข้ายึดอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเสียก่อนที่จะทรงดำเนินการได้สำเร็จลุล่วง ในวาระนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชโทรเลขตอบคณะราษฎรที่กราบบังคมทูลเชิญทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญว่า “...ข้าพเจ้าเห็นแก...
ศึกษาพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯเพื่อสืบทราบพระคติและพระปัญญา พระอุปนิสัยเพื่อเป็นแก่นแกนในการศึกษาเรื่องราวด้านต่างๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งพัฒนาการทางการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยไทย ( บทความและภาพที่เผยแพร่นี้เป็นการเฉลิมพระเกียรติและเพื่อเป็นวิทยาทานเท่านั้น ไม่มุ่งหาผลกำไรหรือรายได้ใดใด หากนำไปใช้กรุณาอ้างอิงที่มาด้วย จักขอบคุณมาก)