โดย ฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาสำหรับเด็กขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2472 โดยพระราชทาน " กรอบโครงและหลักเกณฑ์" ในการจัดประกวดดังนี้
“... หนังสือสำหรับสอนพระสาสนาแก่เด็ก กระบวนแต่งต้องให้เหมาะแก่อายุ ทั้งถ้อยคำและเรื่องก็ให้พอแก่ความสามารถของเด็กจะเข้าใจได้จึ่งจะสมควรแก่การ มิใช่แต่ว่าเป็นนักปราชญ์แล้วจะสามารถแต่งหนังสือเช่นนั้นได้ จึงมีพระราชดำริสั่งราชบัณฑิตสภาให้ประกาศการประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก สำหรับเลือกที่ตีพิมพ์พระราชทานในวันวิสาขบูชา โดยข้อบังคับการประกวดดังกล่าวต่อไปนี้
ข้อ 1 ใครๆ (นอกจากเป็นพนักงานตัดสิน) จะแต่งก็ได้ แต่กำหนดให้ส่งเข้าประกวดปีหนึ่งเพียงคนละเรื่อง
ข้อ 2 ให้ส่งหนังสือประกวดยังราชบัณฑิตยสภาในระวางพรรษกาล คือตั้งแต่วันเข้าพระวรรษาเป็นที่สุด
ข้อ 3 ขนาดหนังสือที่ส่งเข้าประกวดนั้นว่าโดยกำหนดพิมพ์ดีดในกระดาษฟุลสแคปหน้าละ 20 บรรทัดเป็นเกณฑ์ ให้มีจำนวนอยู่ในระหว่างตั้งแต่ 25 หน้าเป็นอย่างน้อยจนถึง 30 หน้า เป็นอย่างมากและฉบับที่ส่งเข้าประกวดนั้นจะพิมพ์ดีดหรือจะเขียนตัวบรรจงก็ได้
ข้อ 4 ต้องแต่งเป็นภาษาไทยและอธิบายความให้ที่เด็กขนาดอายุ 10 ขวบ อ่านเข้าใจความได้
ข้อ 5 เรื่องแต่งให้เป็นการสอนพระพุทธสาสนาตามหลักในพระไตรปิฎก และมิให้กล่าวอธิบายความย่ำยีสาสนาอื่น...”
ในครั้งแรกนั้นมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 24 ราย แบ่งเป็น พระภิกษุ 5 รูป บุคคลทั่วไปชาย 16 คน และบุคคลทั่วไปหญิง 3 คน หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็กเล่มแรกที่ได้รับคัดเลือกให้พระราชทานรางวัลที่ 1 คือ หนังสือสำนวนหมายเลขที่ 2 เรื่อง”สาสนคุณ” ของหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล เนื้อหาแบ่งออกเป็น 7 บท บทที่ 1 คุณพระพุทธเจ้า บทที่ 2 คุรพระธรรม บทที่ 3 คุณพระสงฆ์ บทที่ 4 ศีลห้า บทที่ 5 คุณบุรพการี บทที่ 6 คุณของสาสนา และบทที่ 7 คุณพระมหากษัตริย์ รวมทั้งหมด 67 หน้า และยังโปรดเกล้าฯจัดพิมพ์หนังสือที่ได้รับรางวัล พระราชทานแจกในงานพระราชกุศลวิสาขบูชา ด้วยเหตุที่ทรงตระหนักถึงปัญหาความตกต่ำทางจริยศึกษา และศาสนศึกษาในหมู่เยาวชนไทยเมื่อกว่า 70 ปีมาแล้ว ดังพระราชนิพนธ์คำนำในหนังสือสอนพระพุทธศาสนาตอนหนึ่งว่า
“...การสอนเด็กต้องนับว่าบกพร่องที่สุด เมื่อก่อนนี้ยายแก่หรือพี่เลี้ยงในบ้านก็ได้พยายามสอนบ้างอย่างงูๆ ปลาๆ ครั้นมาบัดนี้ต้องนับว่ากลับซุดโซมลงไปอีก เพราะการสอนในบ้านก็เกือบจะไม่มี การสอนในวัดก็น้อยลง เพราะมีโรงเรียนอื่นๆแทนพระสอนหนังสือ ตามโรงเรียนก็หาได้สอนสาสนาอย่างจริงจังไม่ จนเด็กที่สวดมนต์ได้มีน้อยที่สุด ไหว้พระไม่เป็นก็มี...”
ภาวะวิกฤตทางจริยธรรมในสังคมไทยปัจจุบันมีความรุนแรงยิ่งกว่าสมัยของพระองค์หลายเท่านักทั้งผู้ใหญ่ เด็กและเยาวชนต่างหมกหม่นอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ห่างไกลจากพระพุทธศาสนาจนน่าเป็นห่วง สังคมไทยมีความขัดแย้งความรุนแรงทวีขึ้นมากมาย ดังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นการย้อนกลับไปพิจารณาถึงพระราชกุศลจริยาในการที่รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้เผยแพร่พระพุทธศาสนาโดยการจัดพิมพ์หนังสือแจกในวันวิสาขบูชา จึงน่าจะเป็นประโยชน์
ปัจจุบันหนังสือสอนพระพุทธศาสนาสำหรับเด็กเรื่อง “สาสนคุณ” มีอายุถึง 80 ปีแล้ว เป็นหนังสือที่มีความเป็นมาที่น่าสนใจและทรงคุณค่า ผู้สนใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สามารถชมนิทรรศการที่ชั้น 3 อาคารอนุรักษ์เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลพระปกเกล้าศึกษา พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 09.00 – 16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์
Thanks for the good information that has been shared to everyone.
ตอบลบเที่ยวต่างประเทศ