โดย ฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร
ในประเทศสยาม ภาพยนตร์ประเภทข่าวและเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์รวมถึงภาพยนตร์สารคดี เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการคิดสร้างสรรค์ผูกเรื่องราวให้เป็นภาพยนตร์บันเทิงเช่นเดียวกับประเทศอื่นในโลก สมัยรัชกาลที่ ๗ ภาพยนตร์ข่าวและสารคดีจำนวนหนึ่ง เป็นภาพยนตร์ส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงโปรดการทอดพระเนตรและการถ่ายทำภาพยนตร์มาก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ ต่อมาเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปที่ใดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็มักจะทรงกล้องถ่ายภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์ส่วนหนึ่งไว้เสมอ ทั้งยังโปรดเกล้าฯให้ตั้งสมาคมภาพยนตร์สมัครเล่นแห่งสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ในพ.ศ. ๒๔๗๓ พระราชจริยาวัตรด้านนี้ไม่เพียงจะเป็นบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าเท่านั้น หากยังแสดงถึงพระปรีชาสามารถในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่บ่งชี้ถึงความสนพระทัยในความเป็นอยู่ของราษฎร รวมถึงศิลปวิทยาการ สังคมและวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง
นิทรรศการ“รอยสยามบนแผ่นฟิล์มพระปกเกล้าฯ” จัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๕ สิงหาคม ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ มุ่งหวังให้คนไทยย้อนรำลึกถึงภาพอดีตของสยาม จึงได้เลือกสรรภาพยนตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ใหม่ล่าสุดมาจากหอภาพยนตร์แห่งชาติ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธีฉลองอภิเษกสมรสครบ ๑๒ พรรษาในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และพระราชพิธีโสกันต์ในพระองค์เจ้าจีรศักดิ์สุประภาต มาฉายประกอบการเสวนาในพิธีเปิดนิทรรศการวันพุธที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อให้ผู้เข้าชมนิทรรศการเห็นร่องรอยความสืบเนื่องและความเปลี่ยนแปลงทางคตินิยม ความเชื่อของพระราชพิธีที่เคยมีมาในอดีต
การฉายภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์การเสด็จฯภายในประเทศ ๓ เรื่อง ประกอบการเสวนา มีกำหนดการ ดังนี้ วันเสาร์ที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ฉายภาพยนตร์เรื่องแรก ชื่อ การเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือและมณฑลพายัพอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชกาล เรื่องที่สอง ชื่อ การเสด็จประพาสถ้ำพระยานคร ภายในเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๙ เรื่องที่สาม ชื่อ การเสด็จประพาสมณฑลปัตตานีในปีพ.ศ. ๒๔๗๒ ส่วนภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์เสด็จประพาสต่างประเทศเลือกสรรภาพยนตร์ในคราวเสด็จประพาสเกาะชวาและบาหลี พ.ศ.๒๔๗๒ นับเป็นการเสด็จประพาสต่างประเทศเพื่อเจริญพระราชไมตรีอย่างเป็นทางการครั้งแรกกับอังกฤษและฮอลันดาผู้ปกครองอาณานิคมแห่งสิงคโปร์ ชวา และบาหลี อีกทั้งอดีตเจ้าผู้ครองนครชาวพื้นเมือง ซึ่งนับเป็นมรดกภาพยนตร์ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น