พระปรมินทรมหาประชาธิปก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชดำรัสทางเศรษฐกิจและการเมือง
ในรัชกาลที่ ๗
เรียบเรียงโดย ฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร
“…ประโยชน์ของประเทศชาติย่อมสำคัญกว่าประโยชน์ของส่วนตัวบุคคล และในเวลาที่บ้านเมืองเข้าสู่ที่คับขันเช่นนี้เป็นหน้าที่ของข้าราชการและพลเมืองทุกคนที่จะต้องยอมเสียสละประโยชน์ของตนให้แก่ประเทศสยาม ...”
(ข้อความบางส่วนใน พระราชดำรัสตอบพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายหน้า ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล วันที่ ๒๕กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๔)
ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของสยามและการแก้ไขในสมัยรัชกาลที่ ๗
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาแรก ทรงตัดทอนรายจ่ายต่าง ๆ ในราชสำนัก ลดจำนวนข้าราชบริพารในกระทรวงวัง ยุบหรือรวมหน่วยงานทุกระดับ ผู้สำเร็จราชการกรมมหาดเล็กและผู้บัญชาการกรมมหรสพ
ทรงลดจำนวนเงินที่ถวายพระองค์ จากปีละ ๙ ล้าน เหลือ ๖ ล้านบาท
ในปี ๒๔๖๙ ทรงดุลยภาพข้าราชการออกก่อนกำหนด ให้รับเบี้ยหวัดเบี้ยบำนาญแทน
“Problems of Siam”
พระราชปุจฉา (คำถาม) ๙ ข้อ
ข้อ ๑-๒ เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการสืบราชสมบัติ
ข้อ ๓-๔ เป็นข้อปรึกษาเกี่ยวกับความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบรัฐสภา
ข้อ๕ เป็นข้อปรึกษาเกี่ยวกับบทบาทของอภิรัฐมนตรีสภา
ข้อ๖-๗ เป็นข้อปรึกษาความเหมาะสมของการมีอัครมหาเสนาบดีและสภานิติบัญญัติ
ข้อ๘ เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของสยาม
ข้อ๙ เรื่องการจัดตั้งสภาเทศบาลและปัญหาชาวจีนในสยาม
“ … ข้าพเจ้าเองรู้สึกเหมือนว่าเกิดมาสำหรับตัดรอน ตั้งแต่ต้นก็ตัดมาแล้ว คราวนี้ก็ต้องตัดอีก … รู้สึกว่าเป็นเคราะห์กรรมของตัวที่ต้องทำเช่นนั้นเสมอ … ที่จริงการที่จะปลด จะตัดคราวนี้ รู้สึกหนักใจกว่าคราวก่อนมาก ไม่อยากจะทำเลย … และรู้สึกสงสารที่สุดสำหรับผู้ที่จะต้องออกไป… “
(พระราชดำรัสในรัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๕)
-ทรงเป็นแบบอย่างของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
-ทรงเป็นผู้นำในการเสียสละ
-ทรงเห็นใจผู้เดือดร้อน
-ทรงขอร้องให้ทุกคนเสียสละเพื่อส่วนรวม
-ทำให้การจัดงบประมาณเข้าสู่ดุลยภาพ
“ข้าพเจ้าเห็นว่าสิทธิเลือกตั้งของประชาชนควรจะเริ่มต้นที่การปกครองท้องถิ่นในรูปเทศบาล ข้าพเจ้าเชื่อว่าประชาชนควรมีสิทธิมี
เสียงในกิจการท้องถิ่นก่อน เราพยายามให้การศึกษาเรื่องนี้แก่เขา ข้าพเจ้าเห็นว่าจะเป็นการผิดพลาด ถ้าเราจะมีการปกครองระบอบรัฐสภาก่อน ก่อนที่ประชาชนจะมีโอกาสเรียนรู้ และมีประสบการณ์อย่างดีเกี่ยวกับสิทธิเลือกตั้งในกิจการ ปกครองท้องถิ่น…”
(พระราชทานสัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ส, ๒๘ เม.ย. ๒๔๗๔)
ร่างรัฐธรรมนูญในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก เป็นร่างของพระกัลยาณไมตรี (Dr. Francis B. Sayre) ร่างขึ้นในปี พุทธศักราช ๒๔๖๙ ชื่อว่า “Outline of preliminary Draft”
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๒ ร่างโดย นายเรมอนด์ บี. สตีเวนส์ (Raymond B. Stevens) ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ และพระยาศรีวิสารวาจา ร่างขึ้นในปี พุทธศักราช ๒๔๗๔
ชื่อว่า “An Outline of Changes in The Form of Government”
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ ณ บ้านโนล ประเทศอังกฤษ และประทับในประเทศอังกฤษจนสวรรคตเมื่อ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๔
สิริพระชนม์ได้ ๔๘ พรรษา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น