โดย ฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรก ในครั้งนั้นกระทรวงธรรมการ ต่อมาคือ กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขอพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพระราชพิธีพระราชทานปริญญาเวชบัณฑิตย์ตรีเป็นครั้งแรกของสยาม เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ รวมทั้งยังได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาบัณฑิตย์พิเศษ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระปรมาภิไธยรับเป็นบัณฑิตย์พิเศษด้วย นับว่าทรงเป็นบัณฑิตพระองค์แรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และของสยาม การที่พระองค์ทรงพระกรุณาเสด็จฯมาพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในครั้งนั้นนับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้
ในครั้งนั้น มหาอำมาตย์เอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ทรงทำหนังสือกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๗ เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ปริญญาแก่นิสิตจำนวน ๑๘ คน พระองค์ทรงพระกรุณาให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่า มหาวิทยาลัยมีอำนาจอยู่แล้วโดยอาศัยประกาศประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วตั้งแต่สมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ฝ่ายมหาวิทยาลัยเห็นว่าถ้าให้มหาวิทยาลัยให้ปริญญาเองจะมีค่าน้อยไป หากขอให้ออกพระราชบัญญัติต้องใช้เวลาประมาณ ๑ ปี จึงขอพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษครั้งหนึ่งก่อน รัชกาลที่ ๗ จึงทรงมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระบรมราชานุญาต ต่อมาจึงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาจนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน
ดังปรากฎหลักฐานพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตรุ่นแรก ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ความว่า
"...ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาให้ปริญญาแก่นักเรียนมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรกในวันนี้ นับเป็นวันสำคัญสำหรับประวัติการของประเทศสยามด้วย เพราะว่าไม่ว่าประเทศใดๆ ความเจริญของประเทศนั้นย่อมวัดด้วยความเจริญของการศึกษานั้นอย่างหนึ่ง ในประเทศสยามนี้ต้องนับว่า การมหาวิทยาลัยยังล้าหลังอยู่มาก ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยเหตุหลายประการ คือ การที่จะตั้งมหาวิทยาลัยให้ใหญ่โตนั้น ถ้าเอาเงินถมลงไปก็อาจทำได้ แต่ถ้าวิชาที่สอนนั้นประชาชนยังไม่ต้องการ หรือการสอนไม่เป็นประโยชน์ในทางอาชีพของเราแล้ว การที่จะตั้งเช่นนั้นก็หาเป็นประโยชน์ไม่..." (อ้างมาจาก เอกสาร หจช. ร ๗ ศ.๕/๔ เรื่องพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเวชชบัณฑิตย์ พ.ศ. ๒๔๗๓)
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับเรื่องการพระราชทานปริญญาบัตรระยะแรกในสยาม และสามารถชมฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น ๓ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้า
ทุกวัน ตั้งแต่ ๐๙.๐๐- ๑๖.๐๐ น. ยกเว้นวันจันทร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น