ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับการออกแบบศิลปกรรมในสมัยรัชกาลที่ 7




 ขอบคุณเรื่องจาก หม่อมราชวงศ์จักรรถ จิตรพงศ์ เลขาธิการมูลนิธินริศรานุวัดติวงศ์
                          
งานสถาปัตยกรรมฝีพระหัตถ์สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ที่ได้ทรงออกแบบและก่อสร้างไว้ ได้แก่

-พ.ศ. 2444 ( 38) พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตร

-พ.ศ. 2451 ( 45) พระอุโบสถวัดราชาธิวาส

-พ.ศ. 2462 ( 56 ) พระเมรุสมเด็จพระพันปีหลวง

-พ.ศ. 2463 ( 57 ) พระเมรุสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ

-พ.ศ. 2465 (59) พระเมรุสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

-พ.ศ.2468 (62 ) พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

-พ.ศ. 2471 (65) พระเมรุสมเด็จพระปิตุฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

-พ.ศ. 2472 (67) พระเมรุสมเด็จพระปิตุลาบรมพงศาภิมุข กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช

พระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์

*หมายเหตุ เลขภายในวงเล็บคือ พระชนมายุในปีนั้น




            เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2468 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงมีพระชนมายุถึง 62 พรรษา ซึ่งถือได้ว่า ทรงมีพระชราภาพมากแล้วสำหรับยุคสมัยนั้น อีกทั้งยังมีพระพลานามัยอ่อนแอจากโรคพระหทัยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2452 (46) ทรงประชวรจนต้องลาออกจากราชการ แล้วเสด็จไปประทับที่ตำบลคลองเตย ตั้งแต่พ.ศ. 2457 (51) เป็นต้นมา ตามคำแนะนำของแพทย์และคำชักชวนของเจ้าเทเวศรวงษ์วิวัฒน์

          ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้ทรงงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นงานออกแบบวิจิตรศิลป์ เช่น แบบตาลปัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสต่างๆทั้งที่เป็นพระราชพิธี และงานของเจ้านายที่มาขอให้ทรงแบบให้ และได้ทรงงานในราชการพิเศษบางเรื่อง เช่น เป็นกรรมการหอพระสมุด เป็นต้น


           ในสมัยรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสชวนให้ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์กลับเข้ารับราชการแผ่นดินอีกวาระหนึ่ง และทรงแต่งตั้งให้เป็นอภิรัฐมนตรีที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 (62) ต่อมาเมื่อได้ทรงจัดตั้งราชบัณฑิตสภาขึ้น ก็โปรดเกล้าฯให้ทรงรับตำแหน่งเป็นอุปนายกราชบัณฑิตสภา แผนกศิลปากร เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2469 (63) สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงส์ได้ทรงงานต่อเนื่องไปจนพ้นตำแหน่ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 (69) หลังจากนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินออกไปรักษาพระองค์ ณ ต่างประเทศ ก็มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2476 (70) ไปจนพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสละราชสมบัติ

ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯมีพระราชโทรเลข จากประเทศอังกฤษ พระราชทานต้นไม้เงินต้นไม้ทอง เป็นเกียรติยศอันสูงสุดที่พระเจ้าแผ่นดินจะพึงพระราชทานแก่ผู้หนึ่งผู้ใดได้ พระราชกระแสรับสั่งในโทรเลขนั้น ความว่า

        “หม่อมฉันขอให้ทรงรับเครื่องบรรณาการต้นไม้เงินและต้นไม้ทองนี้จากหม่อมฉันเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความเคารพและบูชาอย่างยิ่งของหม่อมฉัน สำหรับกำลังแห่งน้ำพระทัยและความมานะอดทนอย่างกล้าแข็งของพระองค์ในการที่ได้เผชิญความยากลำบากอันใหญ่หลวงทั้งหลายกับเพื่อเป็นของขวัญสำหรับแสดงความรู้สึกอย่างล้นของหม่อมฉัน ในพระคุณของพระองค์ท่าน ในการที่ทรงมีความจงรักภักดีอย่างแน่แท้ต่อตัวหม่อมฉันและต่อพระราชวงศ์ หม่อมฉันขอประทานด้วยความนอบน้อมได้โปรดให้อภัยแก่หม่อมฉัน สำหรับความยากลำบากและความรันทดสลดใจ ซึ่งหม่อมฉันอาจทำให้พระองค์ได้ทรงรับมา”

โทรเลขตอบของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนริศ ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2477 มีความว่า

   " ขอพระราชทานตอบพระโทรเลขวันที่ 2 ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีใจที่จะหาคำกราบบังคมได้ ขอพระราชทานกราบถวายบังคมแทบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานกราบถวายบังคมแทบฝ่าละอองธุลีพระบาท พระเดชพระคุณล้นเกล้าฯหาที่สุดมิได้ และต้นไม้ทองเงินซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนั้น ข้าพระพุทธเจ้าตั้งใจแล้ว จะนำไปถวายพระบาทสมเด็จพระบูรพมหาราชเจ้าไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร”

งานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ ที่ทรงไว้ในสมัยรัชกาลที่ 7 ที่รวบรวมไว้ได้ ได้แก่

พ.ศ. 2468 (62)

แบบพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

แบบตาลปัตร “พระมหาวชิราวุธ” งานพระบรมศพรัชกาลที่ 6

แบบตาลปัตร “บรมราชาภิเษก” งานบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 7

แบบพระราชลัญจกรพระแสงศร ประจำพระองค์รัชกาลที่ 7

พ.ศ. 2469(63)

ภาพลายเส้น “เมตตา” (สุวรรณสามชาดก)

แบบพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 7

พ.ศ.2470(64)

ภาพลายเส้น “แรงอธิษฐาน” (เนมิชาดก)

ภาพลายเส้น “ปัญญาเลิศ” (มโหสถชาดก)

พ.ศ.2471 (65)

แบบตาลปัตร “รัตนาภรณ์รัชกาลที่ 7” สำหรับพระราชทานตามพระราชอัธยาสัย

แบบพระเมรุ และแบบตาลปัตร สมเด็จพระปิตุฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

พ.ศ.2472 (66)

แบบพระเมรุ แบบตาลปัตร “พระนาม” งานพระศพสมเด็จพระราชปิตุลาพงศาภิมุข เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช

ภาพลายเส้น “คงแก่ศีล” (ภูรทัตต์ชาดก)

แบบตาลปัตร “สงขลา” งานพระศพสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร

แบบตาลปัตร “พระสุพรรณบัฏ” งานพระศพพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎ

พ.ศ. 2473 (67)

ภาพลายเส้นจันทกุมารชาดก

แบบตาลปัตร “วัว” งานศพเจ้าจอมมารดาหรุ่น ในรัชกาลที่ 4

พ.ศ. 2474 (68)

ภาพลายเส้นนารถชาดก

แบบพระปฐมบรมราชานุสรณ์

พ.ศ. 2475(69)

แบบตาลปัตร “กัญจนา” (ก.ไก่) งานพระศพพระองค์เจ้ากัญจนากร

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงส์ สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2490 พระชันษา 83 ปี 10 เดือน 12 วัน







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลำดับเหตุการณ์สำคัญในรัชสมัย : พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลำดับเหตุการณ์สำคัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว - 26 พฤศจิกายน 2468   : สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขุนศุโขทัยธรรมราชาเสด็จขึ้นครองราชย์ - 25 กุมภาพันธ์ 2468 :  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาพระวรชายาเป็นสมเด็จพระบรมราชินี และเสด็จไปประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถาน (ร.7 พระชนม์ 32 พรรษา,สมเด็จฯ 21 พรรษา) -6 มกราคม -5 กุมภาพันธ์ 2469 : พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า รำไพ พรรณีฯ เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลพายัพเพื่อเยี่ยมราษฎร -16 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2470 : เสด็จพระราชดำเนินเยือนหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก -24 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2471: เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลภูเก็ต -10 เมษายน-12 เมษายน 2472 : พระราชพิธีราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักเปี่ยมสุข สวนไกลกังวล -พฤษภาคม 2472  : เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลปัตตานี (ทอดพระเนตรสุริยุปราคา) -31 กรกฎาคม -11 ตุลาคม 2472 : เสด็จพระราชดำเนินเยือน สิงคโปร์ ชวา บาหลี -6 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2473 : เสด็จพระราชดำเนินเยือนอินโดจีน -6 เมษายน - 9 เมษายน 24...

ความสืบเนื่องและการเปลี่ยนแปลงของศิลปวัฒนธรรมสมัยรัชกาลที่ 7

                                                                                                                                   ฉัตรบงกช   ศรีวัฒนสาร [1]                 องค์ประกอบสำคัญในการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของสังคมมนุษย์ จำเป็นต้องอาศัยสภาวะความสืบเนื่องและการเปล...

ห้วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพ

  ขอบคุณภาพจากพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และขอบคุณเนื้อหาจาก รศ.วุฒิชัย  มูลศิลป์ ภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง  ราชบัณฑิตยสถาน        พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 7 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 8 พฤศจิกายน รศ. 112 (พ.ศ. 2436) ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระอรรคราชเทวี (ต่อมาคือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ  และสมเด็จพระศรีพัชรินทราพระบรมราชินีนาถ  พระบรมราชชนนี ตามลำดับ)  โดยทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 9 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯและองค์ที่ 76 ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว     ในห้วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพนี้  ประเทศไทยหรือในเวลานั้นเรียกว่าประเทศสยาม หรือสยามเพิ่งจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่มาได้เพียง 1 เดือน 5 วัน  คือ วิกฤตการณ์สยาม ร. ศ. 112 ที...