ขอบคุณบทความจาก รศ.ม.ร.ว.พฤทธิสาณ ชุมพล ผู้สังเคราะห์ประวัติศาสตร์บอกเล่าในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗
เมื่อวันที่
๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๔
หญิงหม้ายชาวไทยผู้หนึ่งได้จัดการเผาศพสามีของเธอที่สุสานแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนเพียง
๔ วันหลังจากที่เขาได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุเพียง ๔๘ ปี และเธออายุเพียง ๓๗ ปี
ในเวลานั้น ลอนดอนกำลังอยู่ในห้วงเวลาของอันตรายจากลูกระเบิดกลางเวหาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่
๒
เธอต้องใช้ชีวิตไร้สามีต่อไปกับน้องสาวคนหนึ่งของเธอในบ้านคนชั้นกลางหลังหนึ่ง โดยไม่มีชายใดอยู่ด้วยเลย เพราะชายไทยคือ พี่ชายของเธอและชายที่สามีและเธอเลี้ยงดูมาแต่ยังเด็กได้ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นทหารอังกฤษเพื่อเป็นหนทางปลดปล่อยชาติไทยจากการยึดครองของทหารญี่ปุ่น การตัดสินใจซึ่งเธออนุโมทนา
ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิง เธอไม่อาจไปเป็นทหารออกรบกับเขาได้ แต่เธอได้มีส่วนร่วมในกิจจิตอาสา
โดยการเสี่ยงภัยเดินทางเข้าไปยังใจกลางกรุงลอนดอน
เพื่อนำผ้าพันแผลซึ่งเธอและพี่สะใภ้
และน้องสาวได้ช่วยกันตัดและพับที่บ้านไปสมทบบรรจุร่วมกับเวชภัณฑ์อื่นๆเข้าหีบห่อสำหรับใช้ในการ
“กาชาด” เธอเล่าว่ามันน่ากลัวอยู่แต่เธอก็ได้ทำเพราะมันคือธรรมชาติของคนที่เป็นคน
ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอที่ลอนดอนก็เหมือนกับของคนอื่นๆที่นั่น
คือ ต้องนำผ้าสีดำมาปิดหน้าต่าง
ให้มิดชิดในเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้แสงไฟเล็ดลอดออกไป
มิฉะนั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันจะรู้ว่าแถบนั้นเป็นที่ชุมนุมชน แล้วมาทิ้งระเบิด นอกจากนั้น เธอก็ต้องใช้คูปองแลกอาหารและของใช้จำเป็น
รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
เพราะอังกฤษในเวลานั้นต้องมีการแบ่งสันปันส่วน
ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร
ถ้าหาไข่ได้ก็ใช้วิธีแช่น้ำไว้ หรือไม่ก็ใช้ไข่ผง
ข้าวสารนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มีให้หุงกิน แม้ต่อมาสงครามในยุโรปได้ยุติลง แต่ความอัตคัดขัดสนยังคงมีอยู่อีกนาน
ส่วนสงครามในเอเชียอาคเนย์ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน จึงได้ยุติลง
โอกาสที่เธอจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียที
ดูเหมือนจะมีโอกาสแต่เธอก็มิได้กลับมาทันที
กลับอดใจรอคอยวันเวลาที่รัฐบาลไทยจะยอมกลับใจให้เกียรติสามีของเธออย่างที่ควร ในระหว่างรอคอย ไฟไหม้บ้านของเธอไปส่วนหนึ่ง เธอได้กลับบ้านเอาจริงๆ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒
หลังจากที่สงครามในเอเชียอาคเนย์ได้ยุติลงแล้วถึง ๔ ปี ความอดทนของเธอได้ช่วยให้เธอชนะใจคน
เดือนนั้นประชาไทยได้รำลึกถึงวันเวลา
“ใต้ฟ้าประชาธิปก” และได้ไปถวายบังคมพระบรมอัฐิที่พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัยในพระบรมมหาราชวังกันมากมายจนต้องขยายวันอนุญาตให้เข้าไป
<<พช/หญิงหม้าย/ก.ค. ๒๕๕
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น