เหตุที่ไทยให้สิทธินับถือศาสนาโดยเสรีเสมอมา
รศ. ม.ร.ว. พฤทธิสาณ ชุมพล
ฝรั่งอังกฤษคนหนึ่งเข้ามาในสยามเมื่อปลายสมัยรัชกาลที่ 6 โดยมาเป็นครูที่โรงเรียนปทุมคงคา และต่อมาใต้ฟ้า...ประชาธิปกไปเป็นผู้จัดการสยามกัมมาจล (ไทยพาณิชย์) สาขาทุ่งสง เชียงใหม่ และลำปาง จนกระทั่งพ.ศ. 2479จึงกลับไปอังกฤษ เพรารัฐบาลสยามมีนโยบายให้คนไทยทำแทน
หนังสือที่เขาเขียนเล่าประสบการณ์ที่หลากหลายของเขาในสยาม (F.K. Exell, Siamese Tapestry, London : Robert Hale Ltd.1963) อ่านสนุก และมีข้อคิดบางอย่างเกี่ยวกับสยามและคนไทยที่น่าสนใจ
ตัวอย่างเช่น คนไทยกับพุทธศาสนา เขาตื่นตาตื่นใจมากที่ได้เห็นคนไทยจำนวนมากเข้าวัด ในขณะที่โบสถ์คริสต์ในอังกฤษมักมีผู้คนโหรงเหรง คนไทยเข้าวัดไปสวดมนต์เพื่อความสงบในจิตใจ บางคนไปบนบานศาลกล่าวต่อพระพุทธรูป แต่ถ้าไม่ได้ดั่งใจ ชาวพุทธก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดของพระพุทธเจ้า หากเป็นเพราะกรรมเก่า หรือการกระทำในอดีตของตัวเขาเอง ข้อนี้ชาวพุทธที่เข้าถึงหลักธรรมรู้ดี
คุณ Exell ตั้งข้อสังเกตต่อไปอย่างน่าสนใจว่า มิน่าเล่า บรรดามิชชันนารีฝรั่งทั้งหลายจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการชักจูงคนไทยเข้ารีต ก็ในเมื่อศาสนาพุทธให้ “โอกาสที่สอง” แก่เขาเสมอที่จะแก้ตัว และค่อยๆฝึกปฏิบัติเพื่อไปสู่นิพพาน กล่าวคือในศาสนาพุทธไม่มีสวรรค์หรือนรกในบั้นปลาย ชาวพุทธจึงมีแต่ความหวัง ไม่มีความจำเป็นที่พระพุทธเจ้าจะต้องฟื้นขึ้นมาจากความตาย คนไทยที่รู้เรื่องคริสต์ศาสนาจึงเห็นว่าที่ชาวคริสต์อ้างว่าพระเยซูฟื้นขึ้นมานั้นเป็นเพียงตำนานเรื่องปาฎิหารย์ ที่มีไว้เพียงเพื่อชวนให้เห็นว่าศาสนาคริสต์เหนือกว่าศาสนาพุทธ คนไทยเช่นนั้นเห็นว่าการที่พระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์นั้นเป็นเรื่องธรรมดากว่า และไม่ได้ทำให้ไม่น่าเชื่อว่านิพพานมีจริง แม้ว่าภาพที่คนไทยมีเกี่ยวกับนิพพานนั้นจะเลือนๆรางๆพอๆกับภาพที่ฝรั่งเช่นเขาเองมีเกี่ยวกับสวรรค์หรือนรก คุณ Exell จึงไม่แปลกใจเลยว่า คนไทยไม่ว่าในประวัติศาสตร์ยุคใดสมัยใด ไม่เคยลิดรอนสิทธิเสรีในการนับถือศาสนาใดก็ตาม แล้วแต่ใจจะศรัทธา
อ่านแล้ว ชวนให้คิดคำนึงว่า จำเป็นหรือควรหรือไม่ที่เราจะสถาปนาพระพุทธศาสนาเป็น “ศาสนาประจำชาติ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น