ใต้ฟ้าประชาธิปก : การเลือกตั้งทางอ้อมครั้งแรกและครั้งเดียว พ.ศ. 2476
นางฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร เรียบเรียง
ประเทศไทยของเรามีระบอบการปกครองประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข หากจะย้อนศึกษาที่มาที่ไปของการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2476 หลังจากที่เปลี่ยนแปลง การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ประมาณ 1 ปี ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
การเลือกตั้งครั้งแรกนั้นน่าสนใจว่า เป็นการเลือกตั้งทางอ้อมครั้งเดียวเกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่เป็นคนไทยมีสิทธิมีเสียงในการเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารบ้านเมือง เป็นช่วงที่พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นประเทศไทยมีเพียง 70 จังหวัด และมีการเลือกตั้งผู้แทนได้จังหวัดละคน ยกเว้น จังหวัดพระนคร อุบลราชธานี มีผู้แทนได้ 3 คน เชียงใหม่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และนครราชสีมา มีผู้แทนได้ 2 คน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยทางอ้อมนั้นมีผู้ใช้สิทธิร้อยละ 41.5 ได้สมาชิกผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 จำนวน 78 คน เป็นนักกฎหมายถึง 21 คน ข้าราชการประจำ 16 คน นักธุรกิจ 15 คน ข้าราชการเกษียณหรือลาออกแล้ว 11 คน ทั้งหมดเป็นชายอายุระหว่าง 30-49 ปี และมีผู้แทนจากการแต่งตั้งอีก 78 คน รวม 156 คน จัดตั้งเป็นรัฐบาลเมื่อ 86 ปีที่แล้ว
พระราชทัศนะของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนั้นว่า การเลือกตั้งที่ได้มีขึ้นนั้นดูจะสะอาดพอใช้ และทรงดีพระราชหฤทัยว่า ผู้สมัครจากกรุงเทพฯ ส่วนมากไม่ได้รับเลือกตั้งในต่างจังหวัด กลับมีคนท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงได้รับเลือก และมีความตั้งใจจะวางตัวเป็นอิสระ ทรงเห็นว่าพระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จังหวัดพระนคร น่าจะเป็นส.ส. ที่มีสติปัญญาและมีความกล้า พระองค์ทรงเห็นว่ามีส.ส. จำนวนไม่น้อยที่ไม่วางใจในหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นทหารที่คาดว่าหลวงประดิษฐ์มนูธรรมจะต่อต้านการใช้จ่ายด้านทหาร และอีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเขามีความโน้มเอียงไปทางลัทธิคอมมิวนิสต์ ในขณะเดียวกันทรงมีพระราชหฤทัยหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีมติไม่ทำอะไรผลุนผลันและจะทัดทานฝ่ายทหารไว้ได้บ้าง
ปัจจุบันการเลือกตั้งได้มีการพัฒนารูปแบบมากขึ้น เห็นได้จากการเลือกตั้งไม่ได้จำกัดเพียงเลือกคณะรัฐบาล ในระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เท่านั้น ยังมีการเลือกตั้งผู้แทนในระดับท้องถิ่นด้วย อาทิ ผู้ว่าราชการ สมาชิกสภาจังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น
นางฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร เรียบเรียง
ประเทศไทยของเรามีระบอบการปกครองประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข หากจะย้อนศึกษาที่มาที่ไปของการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2476 หลังจากที่เปลี่ยนแปลง การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ประมาณ 1 ปี ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
การเลือกตั้งครั้งแรกนั้นน่าสนใจว่า เป็นการเลือกตั้งทางอ้อมครั้งเดียวเกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่เป็นคนไทยมีสิทธิมีเสียงในการเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารบ้านเมือง เป็นช่วงที่พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นประเทศไทยมีเพียง 70 จังหวัด และมีการเลือกตั้งผู้แทนได้จังหวัดละคน ยกเว้น จังหวัดพระนคร อุบลราชธานี มีผู้แทนได้ 3 คน เชียงใหม่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และนครราชสีมา มีผู้แทนได้ 2 คน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยทางอ้อมนั้นมีผู้ใช้สิทธิร้อยละ 41.5 ได้สมาชิกผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 จำนวน 78 คน เป็นนักกฎหมายถึง 21 คน ข้าราชการประจำ 16 คน นักธุรกิจ 15 คน ข้าราชการเกษียณหรือลาออกแล้ว 11 คน ทั้งหมดเป็นชายอายุระหว่าง 30-49 ปี และมีผู้แทนจากการแต่งตั้งอีก 78 คน รวม 156 คน จัดตั้งเป็นรัฐบาลเมื่อ 86 ปีที่แล้ว
พระราชทัศนะของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนั้นว่า การเลือกตั้งที่ได้มีขึ้นนั้นดูจะสะอาดพอใช้ และทรงดีพระราชหฤทัยว่า ผู้สมัครจากกรุงเทพฯ ส่วนมากไม่ได้รับเลือกตั้งในต่างจังหวัด กลับมีคนท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงได้รับเลือก และมีความตั้งใจจะวางตัวเป็นอิสระ ทรงเห็นว่าพระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จังหวัดพระนคร น่าจะเป็นส.ส. ที่มีสติปัญญาและมีความกล้า พระองค์ทรงเห็นว่ามีส.ส. จำนวนไม่น้อยที่ไม่วางใจในหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นทหารที่คาดว่าหลวงประดิษฐ์มนูธรรมจะต่อต้านการใช้จ่ายด้านทหาร และอีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเขามีความโน้มเอียงไปทางลัทธิคอมมิวนิสต์ ในขณะเดียวกันทรงมีพระราชหฤทัยหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีมติไม่ทำอะไรผลุนผลันและจะทัดทานฝ่ายทหารไว้ได้บ้าง
ปัจจุบันการเลือกตั้งได้มีการพัฒนารูปแบบมากขึ้น เห็นได้จากการเลือกตั้งไม่ได้จำกัดเพียงเลือกคณะรัฐบาล ในระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เท่านั้น ยังมีการเลือกตั้งผู้แทนในระดับท้องถิ่นด้วย อาทิ ผู้ว่าราชการ สมาชิกสภาจังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น