เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างเหรียญนั้นสำหรับเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ช่วยเหรือราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนในการปราบปรามกบฏบวรเดช[1] ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นสมควรได้รับพระราชทาน โดยได้ตรา “พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๔๗๖” ขึ้นใช้ ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือวันที่ ๙ ธันวาคม
๒๔๗๖ ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
ผู้ออกแบบ
กรมศิลปากร
เป็นเหรียญทองแดงรมดำรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ด้านละ ๒๓ มิลลิเมตร ย่อกลางทั้งสี่ด้าน
ด้านหน้ามีภาพสมุดรัฐธรรมนูญวางบนพานแว่นฟ้าสองชั้น อยู่ภายในวงพวงมาลัยชัยพฤกษ์
แผ่รัศมีกระจายทั่วมณฑล ด้านหลังมีรูปพระสยามเทวาธิราชทรงพระขรรค์ในท่าประหารปรปักษ์
ยืนลอยอยู่เหนือตัวอักษรตามขอบล่างว่า “ปราบกบฏ” พ.ศ. ๒๔๗๖” ภายใต้ห่วงอันมีอักษรว่า “พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” แพรแถบสีธงไตรรงค์กว้าง ๒๘
มิลิเมตร ห้อยบนแพรแถบมีเข็มโลหะทองแดงรมดำ จารึกอักษรว่า “สละชีพเพื่อชาติ”
การประดับ
๑.
ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
๒.
ผู้ที่เป็นทหาร ตำรวจ หรือลูกเสือ
ประดับเหรียญนี้ได้ทุกโอกาสตามแต่จะเห็นสมควรในเมือสวมเครื่องแบบ
๓.
สำหรับ (๑)
ผู้ที่ไม่สมเครื่องแบบทหาร ตำรวจ หรือลูกเสือ (๒) พลเรือนทั่วไป
ประดับเหรียญนี้ได้ในโอกาสต่อไปนี้
ข. ในงานต่างๆ ที่เป็นงานพิธีหรืองานเพื่อเกียรติยศแก่หมู่เหล่าหรือบุคคลใดที่สมควรการแต่งกาย ให้แต่งอย่างสุภาพตามธรรมเนียม และกาลนิยม
[1] กบฏบวรเดช ๑๑ ตุลาคม ๒๔๗๖ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช
อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ด้วยความสนับสนุนของทหารจากหัวเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ก่อการเพื่อล้มล้างอำนาจของรัฐบาล (พ.อ. พระยาพหลพลพยุหเสนา)
โดยอ้างว่าคณะราษฎรปกครองประเทศไทยโดยกุมอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว
และปล่อยให้บุคคลกระทำการลบหลู่หมิ่นพระบรมราชานุภาพในองค์พระประมุขของชาติ
รวมทั้งจะดำเนินการปกครองโดยลัทธิคอมมิวนิสต์
คณะผู้ก่อการได้ยกกำลังเข้ายึดดอนเมืองเอาไว้แต่ฝ่ายรัฐบาลปราบปรามจนประสบผลสำเร็จ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น