ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

องค์อภิรัฐมนตรีนักออกแบบ




       ใต้ฟ้าประชาธิปก..: องค์อภิรัฐมนตรีนักออกแบบ

                                                              ขอบคุณ: รศ.ม.ร.ว.พฤทธิสาณ  ชุมพล

          หนึ่งในเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ 5 พระองค์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ทรงเป็นอภิรัฐมนตรีชุดแรกเมื่อต้นรัชกาล  เคยทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ  กระทรวงกลาโหม และกระทรวงวังมาก่อน  หากทรงเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันในพระสมัญญานาม “นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม” หรือ “สมเด็จครู” ของศิลปินเหล่าต่างๆ

          มีหนังสือออกใหม่เกี่ยวกับสมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ชื่อว่า “Prince Naris : A  Siamese Designer”  ค้นคว้าเรียบเรียงโดย M.L. Chittawadi Chitrabongse  หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตตวดี จิตรพงศ์  แห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เป็น “หลานทวด” ของพระองค์  จัดพิมพ์โดย The Naris Foundation หรือมูลนิธินริศรานุวัดติวงศ์ ในค.ศ. 2016 (พ.ศ.2559)

หนังสือปกแข็งเล่มใหญ่หนา 292 หน้า  พร้อมภาพประกอบตลอดเล่มนี้น่าสนใจตรงที่ไม่ได้เป็นการนำเสนอภาพและเรื่องเกี่ยวกับผลงานที่สำเร็จแล้วของพระองค์ เพราะนั่นเป็นสิ่งซึ่งมีอยู่แล้วไม่น้อย แต่เป็นการศึกษาค้นคว้าจากภาพทรงร่าง (sketch) ที่พระทายาทเก็บรักษาไว้เพื่อแสดงถึงขั้นตอนการทรงออกแบบผลงานเหล่านั้น

จิตตวดีเขียนไว้ว่า  แม้องค์สมเด็จฯจะทรงเรียกพระองค์เองว่า “ช่าง” ก็ตาม แต่โดยที่พระองค์ไม่ได้ทรงลงหัตถ์แกะสลักไม้หรือทรงปักผ้า เป็นต้น  เธอจึงเห็นว่าทรงเป็น “นักออกแบบ”(designer) มากกว่าอย่างอื่น  คือ ทรงออกแบบให้ช่างผู้ชำนาญผลิตผลงานต่อไป สิ่งที่ทรงทำเป็นจริงๆ คือ  “การวาดเขียน”

“พระอัจริยภาพในการวาดเขียนของพระองค์”ปรากฏชัดตั้งแต่ พระชันษา 12 ปี  โดยภาพทรงวาดสุริยุปราคาเต็มดวงตามที่ทอดพระเนตรเห็นจากภายในพระบรมมหาราชวังเมื่อ ค.ศ. 1875 (พ.ศ. 2418) ได้รับรางวัลพระราชทานในสมัยรัชกาลที่ 5  เป็นเหตุให้ฝรั่งคนหนึ่งขอพระราชทานนำไปตีพิมพ์ในนิตยสารที่ยุโรป นิตยสารนี้พระทายาทเพิ่งพบว่ามีที่ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร  แต่ภาพต้นฉบับไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด

ครั้นต่อมาเมื่อพระชันษา 19 ปี  โปรดเกล้าฯให้ทรงทำหน้าที่ประสานงานกับช่างในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามเนื่องในการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ในค.ศ. 1882 (พ.ศ. 2425) สมเด็จฯทรงมุ่งทำความคุ้นเคยกับช่างเขียนจิตรกรรมฝาผนัง  วันหนึ่งทรงขอให้พระภิกษุแดงเขียนภาพทศกัณฐ์ให้มี 20 กร   ปรากฏว่าช่างผู้คุ้นชินกับการวาดอย่างมากเพียง 8 กรวาดออกมาเป็นกล้วย 2 หวีๆละ ข้างลำตัว  จากนั้นสมเด็จฯได้ทรงพัฒนาทักษะการวาดภาพแบบเสมือนจริง (realist) ขึ้น  ซึ่งจิตตวดีวิเคราะห์ว่าเป็นตามธรรมชาติของพระองค์ผู้ที่ไม่ได้ทรงมีโอกาสได้เล่าเรียนการวาดภาพแบบประเพณีอย่างเป็นระบบ  ด้วยทรงเป็นเจ้านายชั้นสูงไม่อาจเสด็จออกไปศึกษาตามสำนักต่างๆนอกวังได้  ลักษณะอนุรักษ์นิยมยิ่งของการอบรมเลี้ยงดูผนวกกับพระบุคลิกนั้นเองที่อำนวยให้ทรงสร้างนวัตกรรมได้

หม่อมเจ้าหญิงกรณิกา จิตรพงศ์ พระธิดาองค์เล็กในสมเด็จฯผู้มีพระชนม์อยู่จนถึง 98 ปีเมื่อถึงแก่ชีพิตักษัยในพ.ศ. 2558 รับสั่งไว้ว่า การทรงออกแบบลวดลายหน้าตาลปัตรที่สมเด็จฯทรงขึ้นชื่อนั้น ไม่ได้ง่ายเลย กลับมีขั้นตอนมาก เช่น เมื่อจะทรงวาดภาพวัว ได้ทรงเช่าวัวจากแขกเลี้ยงวัวมาผูกไว้ที่สนามหน้าพระตำหนัก เพื่อทรงสังเกตอากัปกิริยาท่าทางของวัว แล้วทรงเลือกวาดไว้หลายๆแบบที่แสดงกล้ามเนื้อของวัว  ให้ผู้ช่วยได้ช่วยพระองค์เลือกแบบที่ดีที่สุด ให้ช่างปักด้วยด้ายสีตามพระประสงค์  เมื่อเห็นดีแล้ว จึงให้ปักด้วยไหมอีกทีจนเสร็จการ

พระพิริยะอุตสาหะของสมเด็จฯในการทรงเรียนรู้และพัฒนาพระทักษะการวาดภาพได้อำนวยให้พระองค์ทรงสามารถออกแบบสิ่งปลูกสร้างและศิลปกรรมประเภทต่างๆได้โดยไม่ทรงเป็นผู้ชำนาญการในแขนงใดโดยเฉพาะ  ซึ่งนับว่าเป็นธรรมดาของสามัญชนสมัยนั้นที่ยังไม่มีการแบ่งแยกความชำนาญการเช่นในปัจจุบัน  กระนั้น  หรืออันที่จริง ด้วยเหตุนี้เองศิลปินหลายแขนงในปัจจุบันซึ่งรวมถึง คีต และนาฏยศิลปิน จึงยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จครู”

          สรุปว่า “ ความเก๋า” ไม่จำเป็นต้องพ้นสมัย

                                                                  <<<พช./นริศ/มี.ค. 2560>>>

หนังสื

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลำดับเหตุการณ์สำคัญในรัชสมัย : พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลำดับเหตุการณ์สำคัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว - 26 พฤศจิกายน 2468   : สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขุนศุโขทัยธรรมราชาเสด็จขึ้นครองราชย์ - 25 กุมภาพันธ์ 2468 :  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาพระวรชายาเป็นสมเด็จพระบรมราชินี และเสด็จไปประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถาน (ร.7 พระชนม์ 32 พรรษา,สมเด็จฯ 21 พรรษา) -6 มกราคม -5 กุมภาพันธ์ 2469 : พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า รำไพ พรรณีฯ เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลพายัพเพื่อเยี่ยมราษฎร -16 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2470 : เสด็จพระราชดำเนินเยือนหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก -24 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2471: เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลภูเก็ต -10 เมษายน-12 เมษายน 2472 : พระราชพิธีราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักเปี่ยมสุข สวนไกลกังวล -พฤษภาคม 2472  : เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลปัตตานี (ทอดพระเนตรสุริยุปราคา) -31 กรกฎาคม -11 ตุลาคม 2472 : เสด็จพระราชดำเนินเยือน สิงคโปร์ ชวา บาหลี -6 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2473 : เสด็จพระราชดำเนินเยือนอินโดจีน -6 เมษายน - 9 เมษายน 24...

ความสืบเนื่องและการเปลี่ยนแปลงของศิลปวัฒนธรรมสมัยรัชกาลที่ 7

                                                                                                                                   ฉัตรบงกช   ศรีวัฒนสาร [1]                 องค์ประกอบสำคัญในการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของสังคมมนุษย์ จำเป็นต้องอาศัยสภาวะความสืบเนื่องและการเปล...

ห้วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพ

  ขอบคุณภาพจากพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และขอบคุณเนื้อหาจาก รศ.วุฒิชัย  มูลศิลป์ ภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง  ราชบัณฑิตยสถาน        พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 7 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 8 พฤศจิกายน รศ. 112 (พ.ศ. 2436) ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระอรรคราชเทวี (ต่อมาคือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ  และสมเด็จพระศรีพัชรินทราพระบรมราชินีนาถ  พระบรมราชชนนี ตามลำดับ)  โดยทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 9 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯและองค์ที่ 76 ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว     ในห้วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพนี้  ประเทศไทยหรือในเวลานั้นเรียกว่าประเทศสยาม หรือสยามเพิ่งจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่มาได้เพียง 1 เดือน 5 วัน  คือ วิกฤตการณ์สยาม ร. ศ. 112 ที...